Our Services
Latest Knowledge Updates
Cron Job ไม่ทำงาน เกิดจากอะไรได้บ้าง? รวมสาเหตุที่พบได้บ่อยและวิธีแก้ไข
16 December 2025
เคยไหม? ตั้ง Cron Job บน Web Hosting ไว้เรียบร้อย แต่เว็บไม่สำรองข้อมูล สคริปต์ไม่รัน หรือไม่มีอีเมลแจ้งเตือน ทั้งที่คิดว่าน่าจะทำงานแล้ว ปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งาน Web Hosting เจอได้บ่อย และในหลายกรณี Cron Job อาจไม่ได้เสีย แต่เกิดจากการตั้งค่าบางจุดที่ถูกมองข้าม โดยบทความนี้จะพาคุณไปไล่เช็กทีละสาเหตุ พร้อมแนวทางแก้ไขแบบเข้าใจได้ง่ายกัน 1. ตั้ง Cron Syntax ผิด หนึ่งในสาเหตุอันดับต้น ๆ คือ การตั้งเวลา Cron ผิดรูปแบบ โดย Cron Job จะมีโครงสร้างอยู่ 5 ช่อง คือ * * * * * โดยหากใส่ค่าไม่ถูกต้อง เช่น ใส่เลขเกินช่วง (นาที > 59, ชั่วโมง > 23) สลับตำแหน่งช่องเวลา ใช้ * ผิดความหมาย โดยผลที่ได้คือ Cron Job ไม่รันตามเวลาที่คิดไว้ แนวทางแก้ไข ตรวจสอบ Syntax ให้ถูกต้อง ทดลองตั้งเวลาเป็นทุก 5 นาที เพื่อทดสอบก่อน ใช้ Cron Generator ช่วยตรวจสอบความถูกต้อง 2. ใส่ Path ของไฟล์หรือคำสั่งผิด ในการรัน Cron Job นั้นจำเป็นต้องอ้างอิง Path แบบเต็ม (Absolute Path) ไม่เหมือนกับการใช้ Path แบบย่อใน File Manager ได้ ตัวอย่างที่พบบ่อย ใช้ php file.php แทน /usr/local/bin/php /home/user/file.php อ้าง path ไฟล์ผิดโฟลเดอร์ ชื่อไฟล์สะกดผิด แนวทางแก้ไข ตรวจสอบตำแหน่งไฟล์จริงจาก File Manager ใช้ Absolute Path ทุกครั้ง เช็กตัวพิมพ์เล็ก-ใหญ่ (Linux แยก case) 3. PHP Version ไม่ตรงกับที่เว็บไซต์ใช้ แม้หลายโฮสติ้งจะมี PHP อยู่หลายเวอร์ชัน แต่ Cron Job อาจเรียก PHP คนละเวอร์ชันกับหน้าเว็บ ตัวอย่างที่พบบ่อย เว็บทำงานปกติ แต่ Cron Job Error ฟังก์ชันบางอย่างไม่รองรับ PHP เวอร์ชันนั้น แนวทางแก้ไข ระบุ Path PHP ให้ตรงเวอร์ชันที่เว็บใช้ ตรวจสอบ PHP CLI บนโฮสติ้ง ทดสอบรันคำสั่งเดียวกันผ่าน Terminal (ถ้ามี) 4. ไม่มีสิทธิ์รันไฟล์ (Permission) ถ้าไฟล์ Script ไม่มีสิทธิ์ Execute Cron Job จะไม่สามารถรันไฟล์นั้นได้ ตัวอย่างที่พบบ่อย ไม่มี Error แจ้ง แต่ Cron ไม่ทำงาน ไม่เกิดไฟล์ Log หรือ Output ใด ๆ แนวทางแก้ไข ตรวจสอบ Permission ของไฟล์ ไฟล์ Script ควรมีสิทธิ์อย่างน้อย 755 ตรวจสอบ Owner ของไฟล์ให้ตรงกับผู้ใช้งาน 5. Cron Job ถูกจำกัดหรือถูกปิดโดยระบบ ใน Shared Hosting บางแพ็กเกจอาจมีการจำกัดการใช้งานบางอย่าง เช่น จำกัดความถี่ Cron Job จำกัดเวลาการทำงาน (Timeout) ปิดบางคำสั่งเพื่อความปลอดภัย แนวทางแก้ไข ตรวจสอบเงื่อนไขแพ็กเกจ Hosting ที่ใช้อยู่ ลดความถี่การรัน ติดต่อผู้ให้บริการโฮสติ้งเพื่อสอบถามข้อจำกัด 6. Cron Job ทำงานแล้ว แต่ไม่มี Output ให้เห็น หลายคนคิดว่า Cron ไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้ แต่จริง ๆ Cron Job อาจทำงานแล้ว เพียงแค่ไม่แสดงผล เช่น ไม่ได้ตั้งให้ส่ง Output ไปทางอีเมล ไม่มีการบันทึก Log Script ไม่ echo หรือ write ไฟล์ แนวทางแก้ไข เปิดฟังก์ชันส่ง Output ไปทาง E-mail เพิ่ม Log ใน Script ทดสอบด้วยคำสั่งง่าย ๆ เช่น สร้างไฟล์ text 7. Script มี Error ภายใน แม้ Cron จะรันได้ แต่าหาก Script ภายในมี Error งานก็จะหยุดทันที เช่น Syntax Error ใน PHP เชื่อมต่อ Database ไม่ได้ เรียกไฟล์อื่นไม่สำเร็จ แนวทางแก้ไข เปิด Error Reporting ใน Script ชั่วคราว ตรวจสอบ Error Log ของระบบ ทดสอบรันไฟล์ผ่าน Browser หรือ CLI โดยสรุปแล้ว ปัญหา Cron Job ไม่ทำงานมักไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด และส่วนใหญ่มักมาจากจุดเล็ก ๆ เช่น Syntax ผิด Path ไม่ตรง PHP เวอร์ชันไม่ตรง หรือไม่มี Log ให้ตรวจสอบ โดยหากไล่เช็กตามลำดับอย่างเป็นขั้นตอน จะช่วยให้แก้ปัญหาได้เร็วและตรงจุดมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาเว็บโฮสติ้งที่ใช้งานง่ายและปลอดภัย สามารถดูรายละเอียดแพ็กเกจ Web Hosting ของเราได้ที่👉 https://www.hostatom.com/web-hosting
Cron Job กับ Scheduled Task ต่างกันยังไง? เลือกใช้อะไรดีสำหรับเว็บไซต์
15 December 2025
เวลาที่เราต้องการให้ระบบหรือเว็บไซต์ทำงานอัตโนมัติ เช่น สำรองข้อมูลทุกวัน รันสคริปต์ตามเวลา หรือส่งอีเมลแจ้งเตือน หลายคนมักจะเจอกับคำว่า Cron Job และ Scheduled Task โผล่มาให้เลือกใช้อยู่บ่อย ๆ คำถามก็คือ ทั้งสองอย่างนี้เหมือนหรือต่างกันยังไง และเว็บไซต์ของเราควรเลือกใช้อะไรดี? โดยบทความนี้จะช่วยอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องมีพื้นฐานสายระบบมาก่อน Cron Job คืออะไร? Cron Job คือระบบตั้งเวลาทำงานอัตโนมัติบนระบบปฏิบัติการแบบ Unix / Linux ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Web Hosting ส่วนใหญ่ ตัวอย่างการใช้งาน Cron Job รันไฟล์ PHP ทุกวันตอนตี 2 สำรองข้อมูลเว็บไซต์อัตโนมัติ ลบไฟล์ชั่วคราวเป็นระยะ สั่งรันสคริปต์ของ WordPress เช่น wp-cron.php จุดเด่นของ Cron Job ทำงานแม่นยำตามเวลา เหมาะกับงานฝั่ง Server ใช้งานได้ดีบน Web Hosting และ VPS ควบคุมได้ละเอียด Scheduled Task คืออะไร? Scheduled Task เป็นแนวคิดเดียวกับ Cron Job คือ ตั้งเวลาให้ระบบทำงานอัตโนมัติ เพียงแต่คำว่า Scheduled Task มักถูกใช้ในบริบทที่เป็น GUI หรือระบบสำเร็จรูปมากกว่า ตัวอย่าง Scheduled Task ที่พบได้บ่อย Task Scheduler บน Windows Server Scheduled Task ใน Control Panel (เช่น DirectAdmin, cPanel) ระบบตั้งเวลาใน CMS หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ใน Scheduled Task บางระบบเองก็อาจมีการใช้ Cron อยู่เบื้องหลังเช่นกัน เพียงแต่ซ่อนรายละเอียดไว้ ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องพิมพ์คำสั่งเอง จุดเด่นของ Scheduled Task ใช้งานง่าย ไม่ต้องจำ Syntax เหมาะกับผู้เริ่มต้น ลดความผิดพลาดจากการพิมพ์คำสั่ง ความแตกต่างระหว่าง Cron Job และ Scheduled Task หัวข้อCron JobScheduled Task ระดับการใช้งานระดับระบบ (Server)ระดับผู้ใช้งาน / แอป รูปแบบการตั้งค่าCommand Lineส่วนใหญ่เป็น GUI ความยืดหยุ่นสูงมากขึ้นอยู่กับระบบที่ใช้ ความแม่นยำสูงสูง (ในบางระบบจะขึ้นอยู่กับการเรียกใช้งาน) เหมาะกับใครผู้ดูแลเว็บ / แอดมินมือใหม่ / ผู้ใช้ทั่วไป การใช้งานบน Hostingนิยมมากมักครอบด้วย Cron อีกที สรุปแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ… Cron Job – เครื่องมือดิบ ระดับระบบ ควบคุมได้ละเอียด เหมาะกับงานฝั่ง Server Scheduled Task – หน้าตาใช้ง่าย เป็นมิตรกับผู้ใช้ มักใช้ Cron เป็นเบื้องหลัง เว็บไซต์ของเราควรเลือกใช้อะไรดี? ถ้าใช้ Web Hosting ทั่วไป → สามารถใช้ Cron Job ผ่าน DirectAdmin/cPanel ได้เลย ถ้าเป็นมือใหม่หรือไม่อยากพิมพ์คำสั่ง → เลือกใช้ Scheduled Task ที่มี UI ให้ ถ้าต้องการควบคุมแบบละเอียด/งานหนัก → Cron Job จะตอบโจทย์มากกว่า Cron Job และ Scheduled Task ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันที่ทำให้ระบบทำงานอัตโนมัติ แต่จะต่างกันที่ระดับการควบคุมและวิธีใช้งาน โดยการเลือกใช้ให้เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณจะช่วยให้ระบบทำงานได้เสถียร และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาวได้ หากคุณกำลังมองหาเว็บโฮสติ้งที่ใช้งานง่ายและปลอดภัย สามารถดูรายละเอียดแพ็กเกจ Web Hosting ของเราได้ที่👉 https://www.hostatom.com/web-hosting
Work smarter! รวมเครื่องมือ Collaboration บน Microsoft 365 ที่ควรรู้จัก
15 December 2025
หลายองค์กรใช้ Microsoft 365 อยู่แล้ว แต่ในชีวิตจริงคนส่วนใหญ่ยังใช้แค่ Outlook, Word, Excel ทั้งที่ใน Microsoft 365 มี ชุดเครื่องมือ Collaboration ที่ออกแบบมาให้ทีม “ทำงานร่วมกันได้ฉลาดขึ้น เป็นระบบขึ้น” บทความนี้จะไม่ลงวิธีใช้ทีละคลิก แต่จะช่วยให้เห็นภาพว่า “ถ้าองค์กรมี Microsoft 365 อยู่แล้วเครื่องมือตัวไหนใช้ทำอะไร และควรเอาไปใช้ในสถานการณ์แบบไหนบ้าง?” โฟกัสหลักจะเป็นตัวเด่น ๆ อย่าง Planner, To Do, Teams, Whiteboard พร้อมแถมอีกไม่กี่ตัวที่ควรรู้จักไว้เป็น toolkit ประจำทีม มอง Microsoft 365 เป็น “ชุดเครื่องมือทำงานทีม” ไม่ใช่แค่ Word/Excel ถ้าเปลี่ยนมุมมองจาก “ชุดโปรแกรม Office” เป็น “แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกัน” จะเห็นโครงประมาณนี้ Microsoft Teams → ศูนย์กลางการคุยงาน ประชุม แชร์ไฟล์ Planner & To Do → จัดการงาน และสิ่งที่ต้องทำของทีม/แต่ละคน Whiteboard → ระดมความคิด วาดไอเดียออนไลน์ OneDrive / SharePoint → เก็บไฟล์กลางอย่างเป็นระบบ และเครื่องมืออื่น ๆ ที่เสริมประสบการณ์ทำงานร่วมกัน เช่น OneNote, Loop เป็นต้น ลองไล่ดูทีละตัวว่ามันช่วยอะไรบ้าง Microsoft Teams – “ห้องทำงานรวม” ของทีม ถ้าต้องเลือกแค่หนึ่งตัวที่ทีมควรรู้จักจริง ๆ ก็คือ Microsoft Teams ใช้ Teams เพื่ออะไร? แชทคุยงาน แทนอีเมลยาว ๆ หรือกรุ๊ปไลน์ที่หาข้อความเก่าไม่เจอ ประชุมออนไลน์ พร้อมเปิดกล้อง แชร์หน้าจอ อัดประชุมได้ แชร์ไฟล์และทำงานร่วมกับเอกสาร ในแชนเนลของทีม เชื่อมกับแอปอื่นใน Microsoft 365 เช่น แปะ Planner เป็นแท็บบอร์ดงาน แปะ OneNote เป็นสมุดโน้ตทีม แปะลิงก์รายงาน Power BI หรือเว็บแอปต่าง ๆ เหมาะกับใคร? ทีมที่อยากมี “ที่เดียว” ไว้คุยงาน + ประชุม + แชร์ไฟล์ องค์กรที่อยากจัดระเบียบช่องทางการสื่อสาร ไม่ให้ทุกอย่างไหลไปอยู่ในไลน์หมด Microsoft Planner – “กระดานงานของทีม” พอเริ่มคุยงานใน Teams แล้ว คำถามต่อมาคือ ใครทำอะไร? เดดไลน์วันไหน? งานคืบหน้าแค่ไหนแล้ว? Microsoft Planner คือคำตอบในฝั่ง Project / Task Management สำหรับทีม Planner ทำอะไรให้ทีมได้บ้าง? ทำบอร์ดงานในรูปแบบคล้าย Trello / Kanban แยกงานเป็น “การ์ด” (Task) ใส่ คนรับผิดชอบ วันครบกำหนด รายละเอียด / Checklist แนบไฟล์ได้ แบ่งเป็นคอลัมน์ตามสถานะงาน เช่น To do, Doing, Review, Done ดูภาพรวมงานทั้งทีมผ่านมุมมอง Board หรือกราฟสรุป Planner เหมาะกับเคสแบบไหน? ทีมการตลาดที่มีแคมเปญ/โปรเจกต์ต่อเนื่อง ทีมพัฒนา/IT ที่มีงาน feature / bug / task ต่อคิวกัน ทีมเล็ก – กลางที่ยังไม่อยากใช้โปรเจกต์ทูลใหญ่ ๆ แต่ต้องการบอร์ดงานที่อยู่ใน Microsoft 365 อยู่แล้ว Microsoft To Do – “สมุดลิสต์งานของแต่ละคน” ถ้า Planner คือ “ภาพรวมงานของทีม”Microsoft To Do ก็คือ “ภาพรวมงานของฉัน” จุดเด่นของ To Do ลิสต์สิ่งที่ต้องทำของแต่ละคน แยกออกจากกันเป็นรายการ มีมุมมอง “My Day” เป็นหน้ารวมงานที่อยากโฟกัสวันนี้ ซิงก์กับอุปกรณ์ทุกเครื่อง (เว็บ, มือถือ, แอปบน Windows) เชื่อมกับระบบอื่น ๆ เช่น งานที่ถูก assign ให้คุณจาก Planner จะโผล่มาใน To Do อัตโนมัติ อีเมลที่กด Flag จาก Outlook ก็ดึงมาเป็น Task ใน To Do ได้ ใช้ To Do เพื่ออะไร? เลิกจดงานบนโพสต์อิท/สมุดเล่มเดียวแล้วลืม กันลืมงานที่หัวหน้ามอบหมายผ่านอีเมลหรือ Planner วางแผน “วันนี้ต้องทำอะไรบ้าง” แบบส่วนตัวแต่เชื่อมกับระบบทีม Microsoft Whiteboard – “กระดานระดมไอเดียออนไลน์” โลกการทำงานแบบ Hybrid อยู่กันคนละที่ แต่การระดมความคิดก็ยังสำคัญเหมือนเดิม Microsoft Whiteboard คือกระดานไวท์บอร์ดบนหน้าจอ ที่ทุกคนเขียนพร้อมกันได้แบบเรียลไทม์ Whiteboard เหมาะกับการใช้แบบไหน? ระดมไอเดียแคมเปญ/ฟีเจอร์ใหม่ วาด flow งาน หรือ customer journey ให้ทุกคนเห็นภาพ ทำ workshop แบบออนไลน์ โดยให้คนในทีมช่วยกันลาก post – it, เขียนคอมเมนต์ ใช้ประกอบการประชุม Teams เพื่อไม่ให้การคุยเป็นแค่เสียงและสไลด์ มันไม่ใช่เครื่องมือ “รายงาน” แต่เป็นเครื่องมือ “คิดและคุยร่วมกัน” ที่ดีมากตัวหนึ่ง OneDrive & SharePoint – “บ้านเก็บไฟล์” ของบุคคลและทีม ถึงบทความนี้จะเน้นเครื่องมือ Collaboration อย่าง Planner / To Do / Teams / Whiteboardแต่ถ้าไม่พูดเรื่อง ที่เก็บไฟล์ เลย ก็คงขาดสำคัญไปหนึ่งชิ้น OneDrive – พื้นที่ส่วนตัว เป็นพื้นที่เก็บไฟล์ของ “แต่ละคน” เหมาะกับไฟล์ส่วนตัว หรือไฟล์ที่ยังไม่พร้อมแชร์ทั้งทีม แชร์ไฟล์หรือโฟลเดอร์ให้เพื่อนร่วมงานดูได้ตามสิทธิ์ที่กำหนด SharePoint / Libraries – พื้นที่ของทีม ใช้เป็น “คลังไฟล์กลางของทีม/แผนก” เชื่อมหลังบ้านกับ Teams → เวลาเราอัปโหลดไฟล์ใน Channel ของทีม ไฟล์จะถูกเก็บใน SharePoint ของทีมนั้นโดยอัตโนมัติ ช่วยให้โครงสร้างการเก็บไฟล์ขององค์กรชัดเจนว่าอะไรเป็นของส่วนตัว (OneDrive) และอะไรเป็นของทีม/องค์กร (SharePoint) การที่ Microsoft 365 ให้ทั้ง OneDrive+SharePoint ทำให้โครงสร้างการเก็บไฟล์ขององค์กรชัดเจนขึ้น (ไม่ใช่ทุกอย่างแชร์ใน Google Drive ส่วนตัวของใครไม่รู้) OneNote / Loop – จดโน้ต & ทำงานร่วมกันระดับเอกสาร นอกเหนือจาก 4 ตัวหลัก ยังมี 2 ตัวที่น่าแนะนำให้ทีมรู้จักไว้: OneNote – สมุดโน้ตดิจิทัล ใช้จดบันทึกประชุม, สรุปไอเดีย, เก็บความรู้ ทำเป็นสมุดโน้ตร่วมของทีม/โปรเจกต์ได้ แทรกภาพ, ลิงก์, ไฟล์, วาดเขียนได้ Microsoft Loop (ถ้าองค์กรเปิดใช้แล้ว) สร้าง “คอนเทนต์ชิ้นเล็ก ๆ” เช่น ตาราง, ลิสต์งาน, พารากราฟ แล้วเอาไปแปะใช้ในหลายที่พร้อมกัน (Teams, Outlook ฯลฯ) ทุกที่จะเห็นข้อมูล Live ตัวเดียวกัน สองตัวนี้จะสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับทีมที่อยากเก็บ “ความรู้” และ “โน้ต” อย่างเป็นระบบ ภาพรวมการใช้งานร่วมกัน: ตั้งต้นทีมแบบง่าย ๆ ลองสรุปให้เห็นภาพว่าถ้าองค์กรมี Microsoft 365 อยู่แล้ว อยากเริ่มใช้เครื่องมือ Collaboration ให้คุ้ม ควรจัดชุดแบบไหน: Teams → ใช้เป็น “ศูนย์กลางการคุยงาน/ประชุม/ไฟล์” แทนการแยกไลน์ + อีเมลกระจัดกระจาย Planner → เปิดบอร์ดงานในแต่ละโปรเจกต์/ทีมให้เห็นภาพรวม “งานของทีม” To Do → ให้สมาชิกแต่ละคนใช้จัด “งานของตัวเอง” ที่ดึงมาจาก Planner + Outlook Whiteboard → ใช้เวลาเริ่มโปรเจกต์/วางแผน/ระดมไอเดีย เพื่อให้มีพื้นที่คิดร่วมกัน OneDrive/SharePoint → เป็นบ้านเก็บไฟล์ที่ชัดเจน ว่าอะไรคือของส่วนตัว อะไรคือของทีม เริ่มจากเอาเครื่องมือเหล่านี้ไปใช้กับ “โปรเจกต์เดียว หรือทีมเดียว” ก่อนพอคนเริ่มคุ้น เห็นประโยชน์จริง ค่อยขยับขยายไปทั้งองค์กร การ “Work smarter” บน Microsoft 365 ไม่ได้แปลว่าต้องใช้ฟีเจอร์ลึก หรือเขียนโค้ดอัตโนมัติแต่คือการทำให้ทีมตอบคำถามเดียวกันได้ชัดเจนว่า: ใช้อะไรคุยงาน → Microsoft Teams ใช้ที่ไหนเก็บไฟล์กลาง → SharePoint / Teams ใช้ตัวไหนจัดการงานทีม → Planner แต่ละคนใช้ตัวไหนกันลืมงาน → To Do ใช้ที่ไหนระดมไอเดีย/วาด flow ร่วมกัน → Whiteboard เริ่มจากแค่ทำให้ทีมตอบคำถามพวกนี้ได้เหมือนกัน ก็ถือว่า “ยกระดับวิธีทำงานในองค์กร” ไปอีกขั้นแล้ว บริการ Microsoft 365 จาก hostatom เพื่อใช้เครื่องมือ Collaboration เหล่านี้ได้เต็มศักยภาพ องค์กรต้องวาง “พื้นฐาน Microsoft 365” ให้ดีตั้งแต่แรก ทั้งเรื่องแพ็กเกจ บัญชีผู้ใช้ โครงสร้างทีม และสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ hostatom ให้บริการ Microsoft 365 สำหรับธุรกิจ พร้อมทีมงานคนไทยคอยดูแล ช่วยคุณ: แนะนำแพ็กเกจ Microsoft 365 ที่เหมาะกับขนาดและรูปแบบการทำงานขององค์กร วางโครงสร้าง Teams, สิทธิ์ของแต่ละแผนก และแนวทางใช้ Planner / To Do / Whiteboard ให้เข้ากับวัฒนธรรมการทำงานจริง ย้ายอีเมลและไฟล์จากระบบเดิมเข้ามาอยู่บน Microsoft 365 อย่างปลอดภัย ให้คำปรึกษาแนวทาง “Work smarter” ด้วยชุดเครื่องมือ Collaboration ใน Microsoft 365 หากองค์กรของคุณใช้ Microsoft 365 อยู่แล้วแต่รู้สึกว่า “ยังใช้ไม่คุ้ม” หรือกำลังวางแผนจะย้ายมาใช้ 👉 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่Microsoft 365 โดย hostatom – https://www.hostatom.com/microsoft-365/ และสามารถติดต่อทีม hostatom เพื่อช่วยออกแบบวิธีใช้ Microsoft Teams, Planner, To Do และ Whiteboard ให้เหมาะกับทีมของคุณได้เลย
What Our Users Say
tososay.com
ประทับใจในตลอดทุกการใช้งานที่มีมาตลอด กับ Hostatom ครับ
นอกจากใช้บริการพื้นที่และระบบแล้ว ทีมงานยังใส่ใจ เข้าใจ และรับฟัง การทำงานร่วมกันแม้ว่าจะเป็นระบบหน้าบ้าน ทีมงานก็ให้คำแนะนำที่จะใช้งานกับระบบหลังบ้านหรือโฮสต์ได้อย่างดี ขอบคุณที่ให้บริการมาตลอดครับ แนะนำสำหรับมือใหม่ และมืออาชีพ ไว้วางใจ hostatom ได้ครับ
nailekcook.com
ที่นี่บริการดีมากกกกค่ะ 10/10 ไม่หักคะแนนเลย
ช่วยเหลือ 24 ชม.จริงๆ ให้คำแนะนำ แก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้รวดเร็ว พี่ๆ เทคนิค และพี่ๆแอดมิน พูดจาดีมาก ลูกค้าไม่เข้าใจก็พยายามอธิบาย ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
guiaespanolentailandia.com
ทีมงานซัพพอร์ตให้บริการดีมากครับ
ผมพึ่งศึกษาการทำเว็บมีปัญหาอะไรทีมซัพพอร์ตของ hostatom ช่วยได้ตลอดเลย ให้คำปรึกษาดี และตอบไวมากเลยครับ
